วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

กัดดาฟี ประมุขลิเบีย (ผู้นำจอมแฟชั่น)

พันเอกกัดดาฟีประมุขประเทศลิเบีย
พันเอกกัดดาฟีปฎิวัติยึดอำนาจจากกษัตริย์ไอดริส
ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ขณะที่มีอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น
เป็นผู้นำและปกครองประเทศลิเบียมา
เป็นเวลา 42 ปีแล้ว


 สมัยที่ยังเป็นหนุ่มไม่ว่าจะไปปรากฎตัวที่ใด
มักจะสวมชุดทหาร แต่ปัจจุบันเมื่อท่านปรากฎกาย
ชุดที่ท่านสวมใส่จะดูแปลกตา อยู่เสมอ ๆ


ท่วงท่า ลีลา ชุดและแว่นตาของพันเอกกัดดาฟี
ดูเท่ห์กว่า ผู้นำชาติอื่น ๆ (จากซ้ายไปขวา) แบร์ลุสโคนี่
นายกฯอิตาลี ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส,
เมดเดเวฟ ประธานาธิบดีรัสเซีย,
โอบามา ประธานาธบดีสหรัสฯ, บัน คิ มุน
เลขาธิการ UN, พันเอกกัดดาฟี
ประมุขและผู้นำประเทศลิเบีย

พันเอกกัดดาฟี กับ ซาร์โกซี ในการประชุมสุดยอด
ประเทศรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

 ในบรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ จะมีสักกี่คนที่กล้าแต่งกาย
ตามเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองเท่ากับพันเอกกัดดาฟี


 ชุดที่ท่านผู้นำเลือกมาสวมใส่ในงานประชุมต่าง ๆ นั้น


ท่านผู้นำไม่เคยสนใจแต่งกายแบบสากลนิยม
แต่ท่านเลือกในแบบของท่านเองและรูปทุกชุดของ
พันเอกกัดดาฟีจะประดับรูปแผนที่แอฟริกาไว้ที่หน้าอก


 สังเกตุที่เสื้อท่านจะมีแผนที่แอฟริกา

 พันเอกกัดดาฟี กับ บารัค โอบามา
ในการประชุม G8 ที่ประเทศอิตาลี


และที่น่าสังเกตุอีกอย่างคือ "แว่นตา"
คิดว่าคงไม่มีผู้นำชาติไหนแต่งตัว
ล้ำหน้าท่านแน่ ๆ

ดูคลิปสังหารทารุณ พันเอกกัดดาฟี

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

สู้กับมะเร็ง

แม่ชีเทเรซ่า แม่พระของผู้ยากไร้
-----------------------
มะเร็ง

"ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง
ลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคร้ายค่ะ"

ได้มีกลุ่มบุคลหลายกลุ่ม จากหน่วยงานต่าง ๆ ได้รวมตัวก่อ
ตั้งเป็นกลุ่มเป็นองค์กรขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้ผู้
ป่วยมะเร็ง โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลแนะนำวิธีการดูแลรักษาตัว
พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการในทุกระยะ รวมทั้งแนะนำ
วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองเพื่อเตรียมตัวจากไปอย่างสงบด้วย

มีรายชื่อและเบอร์โทรติดต่อของกลุ่ม
และหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีจิตกุศลต้องการช่วยเหลือ
โดยที่ผู้ป่วยมะเร็งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

* โครงการมิตรภาพบำบัด
ของโรงพยาบาลศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง
แห่งประเทศไทย สถานบันจุฬาภรณ์ให้คำปรึกษาทุกระยะ
สายด่วน Call Center 1141 กด 4949

* ศูนย์ส่งเสริมมิตรภาพบำบัด
โรงพยาบาลภูมิพลอดุยเดช
โทร. 02-5347102

* ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย
ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคมะเร็งทุกประเภทและทุกระยะ
รวมทั้งแนะนำวิธีดูแลรักษาตัวแบบการแพทย์แผนจีน
02-6640078-9 หรือ ที http://www.siamca.com/

* มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
(วิชชิ่งเวล) ให้คำปรึกษา ดูแล สร้างกำลังใจและสานฝัน
ให้กับผูป่วยเด็กโรคมะเร็งทุกระยะ 02-6774117 หรือที่
เว็บไซต์ http://www.wishingwellthai.org/

* วัดคำประมง อ. พรรณนานิคม จ.สกลนคร
โดยพระภิกษุ ปพนพัชร์ จิรธัมโม ให้คำปรึกษาแนะแนวทาง
รักษาดูแลตัวเองโดยใช้วิธีทางพุทธศาสนา การใช้สมาธิ
บำบัดมะเร็งกับผู้ป่วยมะเร็งทุกประเภทและทุกระยะ
081-6016960, 081-3227107

* เครือข่ายพุทธิกา จะจัดส่งอาสาสมัครเข้าไปเยี่ยม
ดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วยระยะสุดท้ายตาม
โรงพยาบาลต่าง ๆ 02-8830592 และ 02-8869881

* มูลนิธิมิตรภาพบำบัด กองทุนนายแพทย์
สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ จะให้คำปรึกษาวิธีการสร้างกำลังใจ
ให้ตัวเองเมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง วิธีดูแลรักษาตัวในทุกระยะ
รวมทั้งวิธีเตรียมตัวไปอย่างสงบแก่ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
ผู้ให้คำปรึกษาคือ ทพญ.อพภนันท์
โทร. 02-2773009, 084-1112626

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของ "เครือข่ายเพื่อนมะเร็ง"ที่เกิดจาก
การรวมตัวกันของผู้ป่วย ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง ตัวแทน
วิชาชีพ หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อ
เสริมสร้างกำลังใจให้กันและกันโดย"เครือข่ายเพื่อนมะเร็ง"
จะมีกลุ่มเครือข่ายอยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งใน
กรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด อาทิ

 กลุ่มจุฬาภรณ์เอื้ออาทร  (โรงพยาบาลจุฬาภรณ์)

ชมรมผู้พิชิตมะเร็ง(โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช)

ศูนย์ส่งเสริมมิตรภาพบำบัด ศูนย์มะเร็งลำปาง

กลุ่มอาทรเพื่อนมะเร็ง ( โรงพยาบาลศิริราช )

ชมรมฟื้นฟูชีวิตใหม่ / กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
(โรงพยาบาลรามาธิบดี)

กลุ่มเพื่อนประทุมรักษ์, มูลนิธิออสโตมี่,

กลุ่ม Homecare ( สถานบันมะเร็งแห่งชาติ)

ฯลฯ

ไว้เจอข้อมูลใหม่ ๆ จะมาอัพต่อคะ

.....ดอกฝิ่น//...

สลัดมะเขือม่วง



มือใหม่หัดทำคะ




วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

บทกวี / ต้นข้าว ต้นหญ้า



 บทสนทนาระหว่างน้ำเน่ากับนกน้อย
 
สวัสดีนกน้อย...ผู้นัยน์ตาเศร้า      สวัสดีน้ำเน่า...ไยทักข้า
ทำไมปีกของเจ้าดูโรยรา      เพราะข้าข้ามร้อยป่า หมื่นผาชัน

เจ้าต้องการสิ่งใด มาที่นี้      ข้าต้องการสิ่งที่ข้าเคยฝัน
เจ้าไม่กลัวเจ็บหรือ บินฝ่าฟัน      ใจของข้าเหยียดหยัน ความหวาดกลัว

เจ้าเคยพลาดบ้างไหม...เจ้านกน้อย      กายของข้าด่างพร้อย แผลเป็นทั่ว
เจ้าเคยเหงาบ้างไหม...ยามหมองมัว      อาจมีบ้างเพียงชั่วลมพลิ้วพัด

เจ้ามีรักบ้างไหม ในใจเจ้า      ข้าเคยหลงโง่เง่าโดนเขาสลัด
เจ้าจึงยอมหลีกทาง คว้าง เซซัด      ข้าไม่อยากสาหัสเจ็บหัวใจ


ฝันของเจ้าที่แท้แค่ข้ออ้าง      เปล่า...ฝันข้ารางชางสุขสดใส
เจ้าโกหกตัวเองเพื่ออะไร      เปล่า...ข้าไม่โกหกหลอกตัวเอง


เจ้าต้องการหนีรักจึงหลบมา
เจ้าแอบซ่อนน้ำตาทำอวดเก่ง
ทั้งที่ความเป็นจริงเจ้าวังเวง
เหงาอ้างว้างคว้างเคว้ง...บินเดียวดาย

นกน้อย...ผู้นัยน์ตาเศร้า      ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าล้วนสูญหาย
เกิดมาชั่วชีพหนึ่งถึงตาย      จงอย่าสร้างตาข่ายกักขังตน
จงภูมิใจในรักที่ได้รัก      กว่ารูปกายแตกหักไปปฏิสนธิ์
อย่าวิ่งหนีความจริงจงอดทน      อย่ากลัวรักจงค้นค่าให้พบ


นกน้อย...ผู้นัยน์ตาเศร้า      ถูกต้อง...ข้าน้ำเน่า เหม็น เศร้า ตลบ
รูปนอกข้าใครเห็นเป็นภาพลบ      แต่ใจข้าสงบพบ...สัจธรรม.

....ขอบคุณเจ้าของบทกวี สกุลการ สังข์ทอง//.

      
ต้นข้าวกับต้นหญ้า

นานแสนนานมาแล้ว สมัยที่ต้นข้าวกับต้นหญ้า
ถือกำเนิดเกิดมาบนโลกใบนี้ใหม่ ๆ

 ทั้งสองเป็นพี่น้องที่มองดูคล้ายกันมาก ใบของทั้งคู่ยาวเรียว
แตกออกเป็นกอ เป็นกอสีเขียวสดใส และไร้ดอก
ยากที่จะบอกได้ว่า ต้นใดคือต้นข้าว และต้นใดคือต้นหญ้า

ถึงแม้จะมีรูปร่างคล้ายกัน แต่นิสัยของทั้งคู่กลับแตกต่าง

ต้นข้าวนั้นอบอุ่น อ่อนหวาน รักถิ่นฐาน และสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
ส่วนต้นหญ้านั้นร่าเริงแจ่มใส ขี้เล่น ชอบผจญภัยและรักการเดินทาง

ต้นข้าวและต้นหญ้างอกงามอยู่เคียงกัน
จนกระทั่งถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องเติบโตและขยายพืชพันธุ์

ต้นข้าวผู้เป็นพี่ตกลงใจที่จะเป็นเจ้าสาวของแสงตะวันผู้อ่อนโยน
"แสงตะวันอันอบอุ่นจะนำทางฉันไปสู่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของชีวิต"

ต้นข้าวกล่าวอย่างหนักแน่น

จากวันนั้น ต้นข้าวค่อยสะสมแสงตะวันไว้ในเรียวใบ...ละเล็ก
ที่ละน้อย จนเติบใหญ่ผลิดอกออกรวงข้าวเขียวสดใส
อาบไล้แสงอุ่นจนสุกปลั่ง แปรเปลี่ยนเป็นรวงข้าวสีทองอร่ามตา

"ฉันเป็นเจ้าสาวแห่งแสงตะวัน เติบโตและงอกงาม
เพื่อมอบของขวัญอันมีค่าให้กับชาวโลก"

ต้นข้าวรำพึงเบา ๆ อย่างเป็นสุขในบ้านสีทองอันอบอุ่น
ที่โอบล้อมด้วยแสงตะวัน

แต่ต้นหญ้าไม่คิดเช่นนั้น

"พี่สาวของฉันช่างอดทนและแสนดี แต่การต้องอยู่กับที่
นาน ๆ แบบนี้ คงทำให้ฉันเหี่ยวเฉาตายไปเสียก่อนแน่ ..
บางทีฉันอาจไม่เหมาะกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น
ฉันต้องการเพียงแค่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปไกล ๆ
และทำให้ผู้พบเห็นสบายใจ... เท่านั้นก็พอ"

ต้นหญ้ากล่าว

ทันใดนั้นสายลมอ่อนโยนก็ส่งเสียงกระซิบตอบอย่างแผ่วเบา

"ถ้าเช่นนั้นจงมาเป็นเจ้าสาวของสายลมเถิด
แล้วเราจะได้เดินทางไกลไปด้วยกันอย่างรื่นรมย์"

ดังนั้นต้นหญ้าจึงตัดสินใจเป็นเจ้าสาวของสายลม

ต้นหญ้าเติบโตอย่างร่าเริงแจ่มใส ก่อเกิดดอกหญ้ากับเมล็ดพันธุ์
มากมาย และพร้อมเสมอที่จะเดินทางไกลไปกับสายลม

ต้นหญ้าไม่เคยมีบ้าน แต่ก็สดใสเบิกบานอยู่ทุกหนแห่ง
ที่มีสายลมพัดผ่าน และแม้แต่ต้นข้าว ไม่เคยออกเดินทางไกล
ก็สุขใจอยู่ในอ้อมกอดของแสงตะวัน

จากนั้นมา ต้นข้าว และต้นหญ้า จึงแตกต่างกัน

ต่างก็เติบโตไปตามวิถีชีวิตของตน
ต่างก็มีความสุขและทำให้ผู้อื่นเป็นสุขในวิธีที่แตกต่าง

แต่ถ้าวันใดมองเห็นต้นหญ้าในนาข้าวแล้วละก็...
อย่าแปลกใจ

ต้นหญ้าเพียงแค่แวะมาทักทายต้นข้าวผู้เป็นพี่สาว
ด้วยความคิดถึง...เท่านั้นเอง...

ขอขอบคุณเรื่องราวที่น่ารัก
ที่มาจาก รักษิตา "เรื่องเล่าประจำสวน"

.........ดอกฝิ่น///..