วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ในหลวงกับพระสหาย ตอน 2

 
5 ธันวาคม 2555 เวลา 10.30 น. ในหลวงเสด็จออก ณ สีหบัญชร
พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัส 'ความพร้อมเพรียง
 จะทำให้ไทยรอดได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด'
 
 
พสกนิกรรอชื่นชมพระบารมี
 
 
 
ทรงพระเยาว์
เข้าเรื่องพระสหายต่อคะ

.
.
.
.

ด็อกเตอร์ Michel Bugnion

พระสหายท่านที่ 3 ด็อกเตอร์ Michel Bugnion เป็นพระสหายร่วมชั้นเรียน
เดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล และเป็นแพทย์ทางรังสี
วิทยา เมื่อเกษียณแล้ว หันมาสนใจงานทางด้านศิลปะ


เขามีที่ทำงานอยู๋บนชั้น 2 ของตึกเก่ากลางใจเมืองโลซานน์ บนถนนที่ค่อน
ข้างหรู เดิมทีตึกนี้เป็นที่ทำการธนาคารของพ่อ เขาเป็นลูกคนเดียว เมื่อมา
เลือกเรียนแพทย์ จึงต้องขายกิจการธนาคารไป


 ปัจจุบันเขาหันมาสนใจเรื่องงานศิลปะมาก และได้เอาบ้านเก่าของตระกูลยก
 ให้มูลนิธิเฮอร์มิเทจ (Hermitage) เพื่อทำเป็นสถานที่จัดนิทรรศการภาพเขียน
ในระดับสูง เขายังเป็นประธานมูลนิธิ Emma Muschamp ซึ่งมีจุดมุ่งหมายใน
การค้นคว้าทางการแพทย์ ในเขตจังหวัดโวด์ (Vaud) อีกทั้งยังได้เข้าร่วมกับ
สมาคมทางวัฒนธรรมและศิลปะอีกหลายแห่ง


เมื่อเขาย้อนละลึกไปถึงวัยเด็ก เมื่อเป็นนักเรียนอยู่ที่โรงเรียน Ecole
Nouvelle เขาเล่าว่า..


"ผมอยู่โรงเรียนนี้เกือบ 5 ปี ผมจบ ม. ปลายค่อนข้างช้า เพราะป่วย ผมก็ขอ
พ่อแม่เรียน Intensive Course


.....ผมเคยได้คุยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ผมจำท่าน
ได้ดีมากกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล เพราะว่าพระองค์ทรงศึกษา
อยู่ชั้นต่ำกว่า ผมรู้ว่าพระองค์ทรงโปรดดนตรีแจ๊สมาก


...ทั้ง 2 พระองค์ก็เหมือนกับนักเรียนอื่น ๆ ทั่วไป ต่างกันเพียงที่มีรถมารับส่ง
ไม่เหมือนกับผมที่เดินมาโรงเรียน


....ทั้ง 2 พระองค์ ทรงเรียนหนังสือเหมือนกับพวกเราทุกคน เรียนทั้งประวัติ
ศาสตร์ วรรณคดีฝรั่งเศส ประวัติศาสตร์สวิส ไม่ได้เรียนหรือทำอะไรที่แตก
ต่างไปจากเราเลย ผมคิดว่าท่านต้องเรียนประวัติศาสตร์ไทย และวรรณคดี
ไทยด้วย แต่พวกเราไม่ต้องเรียน


...ในสมัยนั้นมีนักเรียนต่างชาติไม่มาก ท่านจึงดูแตกต่างจากคนอื่น แต่ก็
เพียงรูปร่างหน้าตาเท่านั้น ไม่มีความแตกต่างระหว่างเรา


...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ดูจะเงียบขรึมกว่าพระอนุชา
แต่มีเสน่ห์มาก และทรงเป็นเพื่อนที่ดีมาก ผมเคยเห็นสมเด็จย่าด้วย 2-3
ครั้งท่านเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มาก ผมจำได้ติดตาท่านเก๋ สง่าและวางตัวดี"


ด็อกเตอร์บิวยองได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาโรงเรียนในภายหลัง

.
.

เมอร์ซิเออร์ฌาคส์ พิคคาร์

ท่านที่ 4 คือ เมอร์ซิเออร์ Jacques Piccard เขามีรูปร่างสูงโปร่ง มีบุคลิกน่า
เลื่อมใสอย่างนักวิชาการที่ทรงความรู้ คล่องแคล่วและยังมีความทรงจำที่ดี
เขาเป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนเดียว กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานัน
ทมหิดลเช่นกัน และเป็นพระสหายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
 เขาเป็นนักสร้างเรือดำน้ำที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์


ทั้ง 4 ท่านนี้ได้ต่างพูดเสียงพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความประทับใจใน
องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างยิ่ง และยังมีความทรงจำที่ดี
โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรงเรียน Ecole Nouvelle


"ที่นี่แหละ ที่ผมได้พบและได้รู้จักกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมเรียน
ร่วมชั้นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ท่านไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกับผม เพราะว่าท่านพระชนมายุ
น้อยกว่า


....โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสมัยใหม่ เป็นการสอนระบบใหม่ ไม่ใช่อย่างในโรง
เรียนทั่วไป จะไม่มีชั้นเรียนประจำ คืออาจจะเรียนภาษาชั้นหนึ่งแล้วไปเรียน
คณิตศาสตร์ กับฟิสิกส์อีกชั้นหนึ่ง คือถ้าเราเรียนเก่งวิชาไหนเราก็จะย้ายไป
ได้เร็ว แต่ถ้าไม่ค่อยเก่งก็อาจจะต้องอยู่นานหน่อย  ..แต่ละห้องเรียนจะมีเด็ก
ไม่มากไม่เกิน 11-12 คน เมื่อมีน้อยก็สนิทกันได้ง่าย'


ในช่วงนั้นเป็นช่วงสงคราม การเดินทางไม่สะดวกนัก การมีรถยนต์ใช้จึง
ค่อนข้างกรณีพิเศษ


"เวลาไปโรงเรียนผมต้องเดินจากบ้าน 20 นาทีจึงจะถึงทะเลสาป แล้วนั่ง
รถไฟไปอีกครึ่งชั่วโมง แล้วเดินต่ออีก 10 นาที เยอะเหมือนกันนะ


....สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ท่านประทับอยู่ใกล้
โรงเรียน แต่เท่าที่จำได้ท่านเสด็จฯมาโดยรถยนต์ กับ มร.เซอรายดาริส


...เมื่อได้พบกับทั้งสองพระองค์ที่โรงเรียน ดูเหมือนเราจะชอบกันแต่ต้นเลย
กับในหลวงอานันทฯก็สนิทสนมกันดี ท่านเคยเสด็จฯมาที่บ้านผม 2-3 ครั้ง
ครั้งหนึ่งเสด็จฯมาที่บ้านผมพร้อมกันทั้งสองพระองค์ มร.เซอรายดาริสเป็น
คนพาท่านมา เราก็นั่งคุยกันในห้องรับแขกไม่ได้เล่นอะไรกัน


....สมัยนั้นเราไม่ได้เล่นกันอย่างสมัยนี้หรอกนะครับ แต่เราจะคุยกันมาก
กว่าบางทีก็จะเล่นหมากรุกกัน ผมเล่นไม่เก่งหรอกครับ แต่สมัยนั้นหมาก
รุกเป็นกีฬาที่เด็กผู้ชายมักจะชอบเล่นกัน  .....เราจะเดินเล่นด้วยกันบ่อย
มาก เดินเที่ยวในป่า แต่ไม่เคยล่าสัตว์


....เราคุยกันได้หลายเรื่อง ส่วนมากก็เรื่องการเรียน ปรัชญา หรือไม่ก็เรื่อง
การเมือง เรื่องสงคราม  ....ผมจำได้ว่าในหลวงอานันทฯกับผมเอาแผนที่
โลกมากางดูกัน ดูว่ากองทัพญี่ปุ่นอยู๋ตรงนั้น ของอเมริกันอยู่ตรงนี่ อังกฤษ
อิตาลี ฯลฯ อะไรอย่างนี้ เราคุยกันเรื่องนี้บ่อยมาก ถกกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น


...ตอนนั้นผมอายุประมาณ 17 ปีหรือ 18 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้
อ่อนกว่าผมประมาณ 5 ปี แม้ว่าท่านยังทรงพระเยาว์ แต่ตอนนั้นท่านก็น่ารักมาก
เหมือนเดี๋ยวนี้นี่แหละ พระสุรเสียงนุมนวลอ่อนโยน ..ในตอนนั้นทั้งสองพระองค์
ไม่เคยพูดถึงการเมืองไทย เป็นการรู้กันเฉย ๆ ว่าไม่คุยเรื่องนี้ไม่มีการถามว่าจะ
 กลับไปครองราชย์หรือเปล่า ท่านไม่เคยรับสั่งถึงเรื่องอย่างนี้


....ผมไม่ถามอะไรที่คิดว่าอาจจะไม่พอพระราชหฤทัย แต่จะว่าไม่สนใจเลย
ก็ไม่ใช่ แน่นอนผมทึ่งสิครับ ทำไมจะไม่ทึ่งว่าองค์หนึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
อีกองค์หนึ่งเป็นเจ้าชาย  ....แต่ทั้งสองพระองค์น่ารักมาก เป็นธรรมชาติ
และทรงเปิดเผยมาก เราจึงเป็นเพื่อนกันได้ง่ายคุยกันก็ใช้ Tu ไม่ได้เรียก
Vous แม้แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อย่างนั้น ท่านน่ารักมาก


...ตอนแรกหลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว  ผมก็เขียน
จดหมายไปถึงท่าน ใช้ภาษาสูงอย่างถูกต้องตามพิธีการ พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวก็ทรงตอบกลับมาว่า เราเป็นเพื่อนกันนะ ขอให้ใช้ Tu เหมือนเดิม"


หากเมื่อไรที่เขามาเมืองไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าทุกครั้ง

- - - - - - -

แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเท่าใด ระยะทางจะห่างกันแค่ไหน แต่องค์
สมเด็จพระบาทพระเจ้าอยู่หัว ยังอยู่ในความทรงจำของคนเป็นจำนวนมาก
 ณ ต่างถิ่นแดนไกล พระสถิตอยู่ในใจคนไทยทั่วหล้า

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ มีพลามัย
สมบูรณ์แข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ..
 ข้าพระพุทธเจ้า Blog Andaman
 น้อมเกล้าถวายพระพร

- - - - - - - - - -

ขอบคุณข้อมูลจาก: กองบรรณาธิการ มากคะ
( พวงรัตน์ กมลาโสภิษฐ์ ภคินี )

.
.
.
.

ยังมีอีกหนึ่งท่าน คือ เป๊าะเต็ง หรือ นายวาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายสายบุรี 

1 ความคิดเห็น:

  1. ได้รู้จัก พระสหายของในหลวง ทั้ง 4 คนแล้ว
    แต่เรื่องยังไม่จบใช่ไหมครับ เห็นว่าจะมาอัพบล๊อก
    เรื่องนี้ต่ออีก ดีจังเลยครับ
    ขอบคุณเรื่องดี ๆ มีประโยชน์ ครับผม ..

    ตอบลบ